มกราคม 8, 2024ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังผู้สมัคร Bitcoin ETF แก้ไขฟอร์ม S-1
มกราคม 8, 2024
ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังผู้สมัคร Bitcoin ETF แก้ไขฟอร์ม S-1 ขั้นสุดท้ายก่อนตัดสิน
ดูเหมือนว่า ราคา Bitcoin จะได้พุ่งขึ้นไปแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง เพิ่มขึ้นมา 5.1% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากข้อมูลของ CoinMarketCap
อย่างไรก็ตาม
ในตอนนี้เรายังไม่ทราบถึงสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นมามากขนาดนี้ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากการค้นพบการเปลี่ยนแปลงของผู้ยื่นขอเปิดกองทุน Bitcoin ETF ที่ได้แก้ไขฟอร์ม S-1 ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการตัดสิน
โดยได้มีผู้สมัครหลายรายอย่าง BlackRock, Ark Invest/21Shares, VanEck, WisdomTree, Invesco, Fidelity และ Valkyrie ได้ทำการยื่นแบบฟอร์ม S-1 ที่แก้ไขเพิ่มเติมทั้งหมด ซึ่งในเอกสารได้เพิ่มเติมค่าธรรมเนียมผู้สนับสนุนบางส่วนซึ่งยังไม่ได้ประกาศก่อนหน้านี้
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ BlackRock ได้ยื่นค่าธรรมเนียมสำหรับ Bitcoin ETF ไว้เพียงแค่ 0.3% ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ถูกกว่าตลาดมาก และเพิ่มโอกาสให้ทางบริษัทขึ้นมาเป็นเจ้าตลาด Bitcoin ETF มากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ Ark/21Shares ก็ได้ลดค่าธรรมเนียมแข่งโดยลดจาก 0.8% เหลือเพียง 0.25% พร้อมกับไม่คิดมีค่าธรรมเนียมในช่วงหกเดือนแรกหรือจนกว่า ETF จะมีสินทรัพย์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่ผู้สมัครได้ยื่นเอกสารขั้นสุดท้ายแล้ว ก็เหลือเพียงแค่คาดหวังว่าทาง SEC จะตัดสินใจว่าจะอนุมัติแบบฟอร์ม และประกาศบังคับใช้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้สมัครสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์นี้ได้ในวันถัดไป
ที่มา: The Blockขาดทุนเหลือ ( 0.0044 - 0.00445 ) × 100 = -1.12% แล้ว
หมายเหตุ : 1) 0.0044 คือราคาปัจจุบันของ LUNC ที่ 0.0044 บาท
2) 0.00445 คือราคาเฉลี่ยของ LUNC ที่ป้าแนะนําซื้อในช่วงพฤษภาคม - ธันวาคมปี 2023 ( 8 เดือน ) ที่ 0.00445ขาดทุนเหลือ ( 0.0044 - 0.00445 ) × 100 = -1.12% แล้ว
หมายเหตุ : 1) 0.0044 คือราคาปัจจุบันของ LUNC ที่ 0.0044 บาท
2) 0.00445 คือราคาเฉลี่ยของ LUNC ที่ป้าแนะนําซื้อในช่วงพฤษภาคม - ธันวาคมปี 2023 ( 8 เดือน ) ที่ 0.00445 บาทรกของโลก บาท และ Siam Blockchainมกราคม 8, 2024
ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังผู้สมัคร Bitcoin ETF แก้ไขฟอร์ม S-1 ขั้นสุดท้ายก่อนตัดสิน
ดูเหมือนว่า ราคา Bitcoin จะได้พุ่งขึ้นไปแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง เพิ่มขึ้นมา 5.1% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากข้อมูลของ CoinMarketCap
อย่างไรก็ตาม
ในตอนนี้เรายังไม่ทราบถึงสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นมามากขนาดนี้ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากการค้นพบการเปลี่ยนแปลงของผู้ยื่นขอเปิดกองทุน Bitcoin ETF ที่ได้แก้ไขฟอร์ม S-1 ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการตัดสิน
โดยได้มีผู้สมัครหลายรายอย่าง BlackRock, Ark Invest/21Shares, VanEck, WisdomTree, Invesco, Fidelity และ Valkyrie ได้ทำการยื่นแบบฟอร์ม S-1 ที่แก้ไขเพิ่มเติมทั้งหมด ซึ่งในเอกสารได้เพิ่มเติมค่าธรรมเนียมผู้สนับสนุนบางส่วนซึ่งยังไม่ได้ประกาศก่อนหน้านี้
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ BlackRock ได้ยื่นค่าธรรมเนียมสำหรับ Bitcoin ETF ไว้เพียงแค่ 0.3% ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ถูกกว่าตลาดมาก และเพิ่มโอกาสให้ทางบริษัทขึ้นมาเป็นเจ้าตลาด Bitcoin ETF มากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ Ark/21Shares ก็ได้ลดค่าธรรมเนียมแข่งโดยลดจาก 0.8% เหลือเพียง 0.25% พร้อมกับไม่คิดมีค่าธรรมเนียมในช่วงหกเดือนแรกหรือจนกว่า ETF จะมีสินทรัพย์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่ผู้สมัครได้ยื่นเอกสารขั้นสุดท้ายแล้ว ก็เหลือเพียงแค่คาดหวังว่าทาง SEC จะตัดสินใจว่าจะอนุมัติแบบฟอร์ม และประกาศบังคับใช้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้สมัครสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์นี้ได้ในวันถัดไป
ที่มา: The Blockขาดทุนเหลือ ( 0.0044 - 0.00445 ) × 100 = -1.12% แล้ว
หมายเหตุ : 1) 0.0044 คือราคาปัจจุบันของ LUNC ที่ 0.0044 บาท
2) 0.00445 คือราคาเฉลี่ยของ LUNC ที่ป้าแนะนําซื้อในช่วงพฤษภาคม - ธันวาคมปี 2023 ( 8 เดือน ) ที่ 0.004450xe60af5e71844DDEA4564bf81c029cC8983B914E9ปี 2021- 2023 ถือว่าเป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสําคัญ และจุดเริ่มต้นใน 2 อุตสาหกรรมในอนาคตของโลก คือ :
1) Digital Technology : จุดเริ่มต้นคือเมื่อ LUNC ทําจุดตํ่าสุดตลอดกาลที่ 0.000017 USD เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมปี 2022
ในเดือนตุลาคมปี 2022, Raoul Pal ได้ออกมาคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตฯจะโต 300 เท่าในอีก 15 - 20 ปีข้างหน้าโดยเริ่มจากปี 2022 ( ที่ 0.793 ล้านล้าน USD )
2) Decarbonization : จุดเริ่มต้นคือผลการประชุม COP 26 ที่กรุงกราสโกว์, ประเทศสก๊อตแลนด์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 2021 โดยประเทศไทยได้ให้สัตยาบานว่าจะลดความเป็นกลางทางด้านคาร์บอนให้ได้ในปี 2050 และลดคาร์บอนเป็นศูนย์ให้ได้ในปี 2065
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมปี 2023 ยุโรปได้บังคับใช้กฎหมาย CBAM ซึ่งเป็นกฎหมายกีดกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานทางด้านคาร์บอนฉบับแมกราคม 8, 2024
ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังผู้สมัคร Bitcoin ETF แก้ไขฟอร์ม S-1 ขั้นสุดท้ายก่อนตัดสิน
ดูเหมือนว่า ราคา Bitcoin จะได้พุ่งขึ้นไปแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง เพิ่มขึ้นมา 5.1% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากข้อมูลของ CoinMarketCap
อย่างไรก็ตาม
ในตอนนี้เรายังไม่ทราบถึงสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นมามากขนาดนี้ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากการค้นพบการเปลี่ยนแปลงของผู้ยื่นขอเปิดกองทุน Bitcoin ETF ที่ได้แก้ไขฟอร์ม S-1 ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการตัดสิน
โดยได้มีผู้สมัครหลายรายอย่าง BlackRock, Ark Invest/21Shares, VanEck, WisdomTree, Invesco, Fidelity และ Valkyrie ได้ทำการยื่นแบบฟอร์ม S-1 ที่แก้ไขเพิ่มเติมทั้งหมด ซึ่งในเอกสารได้เพิ่มเติมค่าธรรมเนียมผู้สนับสนุนบางส่วนซึ่งยังไม่ได้ประกาศก่อนหน้านี้
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ BlackRock ได้ยื่นค่าธรรมเนียมสำหรับ Bitcoin ETF ไว้เพียงแค่ 0.3% ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ถูกกว่าตลาดมาก และเพิ่มโอกาสให้ทางบริษัทขึ้นมาเป็นเจ้าตลาด Bitcoin ETF มากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ Ark/21Shares ก็ได้ลดค่าธรรมเนียมแข่งโดยลดจาก 0.8% เหลือเพียง 0.25% พร้อมกับไม่คิดมีค่าธรรมเนียมในช่วงหกเดือนแรกหรือจนกว่า ETF จะมีสินทรัพย์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่ผู้สมัครได้ยื่นเอกสารขั้นสุดท้ายแล้ว ก็เหลือเพียงแค่คาดหวังว่าทาง SEC จะตัดสินใจว่าจะอนุมัติแบบฟอร์ม และประกาศบังคับใช้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้สมัครสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์นี้ได้ในวันถัดไป
ที่มา: The Blockขาดทุนเหลือ ( 0.0044 - 0.00445 ) × 100 = -1.12% แล้ว
หมายเหตุ : 1) 0.0044 คือราคาปัจจุบันของ LUNC ที่ 0.0044 บาท
2) 0.00445 คือราคาเฉลี่ยของ LUNC ที่ป้าแนะนําซื้อในช่วงพฤษภาคม - ธันวาคมปี 2023 ( 8 เดือน ) ที่ 0.00445ปี 2021- 2023 ถือว่าเป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสําคัญ และจุดเริ่มต้นใน 2 อุตสาหกรรมในอนาคตของโลก คือ :
1) Digital Technology : จุดเริ่มต้นคือเมื่อ LUNC ทําจุดตํ่าสุดตลอดกาลที่ 0.000017 USD เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมปี 2022
ในเดือนตุลาคมปี 2022, Raoul Pal ได้ออกมาคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตฯจะโต 300 เท่าในอีก 15 - 20 ปีข้างหน้าโดยเริ่มจากปี 2022 ( ที่ 0.793 ล้านล้าน USD )
2) Decarbonization : จุดเริ่มต้นคือผลการประชุม COP 26 ที่กรุงกราสโกว์, ประเทศสก๊อตแลนด์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 2021 โดยประเทศไทยได้ให้สัตยาบานว่าจะลดความเป็นกลางทางด้านคาร์บอนให้ได้ในปี 2050 และลดคาร์บอนเป็นศูนย์ให้ได้ในปี 2065
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมปี 2023 ยุโรปได้บังคับใช้กฎหมาย CBAM ซึ่งเป็นกฎหมายกีดกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานทางด้านคาร์บอนฉบับแขาดทุนเหลือ ( 0.0044 - 0.00445 ) × 100 = -1.12% แล้ว
หมายเหตุ : 1) 0.0044 คือราคาปัจจุบันของ LUNC ที่ 0.0044 บาท
2) 0.00445 คือราคาเฉลี่ยของ LUNC ที่ป้าแนะนําซื้อในช่วงพฤษภาคม - ธันวาคมปี 2023 ( 8 เดือน ) ที่ 0.00445ปี 2021- 2023 ถือว่าเป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสําคัญ และจุดเริ่มต้นใน 2 อุตสาหกรรมในอนาคตของโลก คือ :
1) Digital Technology : จุดเริ่มต้นคือเมื่อ LUNC ทําจุดตํ่าสุดตลอดกาลที่ 0.000017 USD เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมปี 2022
ในเดือนตุลาคมปี 2022, Raoul Pal ได้ออกมาคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตฯจะโต 300 เท่าในอีก 15 - 20 ปีข้างหน้าโดยเริ่มจากปี 2022 ( ที่ 0.793 ล้านล้าน USD )
2) Decarbonization : จุดเริ่มต้นคือผลการประชุม COP 26 ที่กรุงกราสโกว์, ประเทศสก๊อตแลนด์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 2021 โดยประเทศไทยได้ให้สัตยาบานว่าจะลดความเป็นกลางทางด้านคาร์บอนให้ได้ในปี 2050 และลดคาร์บอนเป็นศูนย์ให้ได้ในปี 2065
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมปี 2023 ยุโรปได้บังคับใช้กฎหมาย CBAM ซึ่งเป็นกฎหมายกีดกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานทางด้านคาร์บอนฉบับแมกราคม 8, 2024
ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังผู้สมัคร Bitcoin ETF แก้ไขฟอร์ม S-1 ขั้นสุดท้ายก่อนตัดสิน
ดูเหมือนว่า ราคา Bitcoin จะได้พุ่งขึ้นไปแตะ 45,000 ดอลลาร์อีกครั้ง เพิ่มขึ้นมา 5.1% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากข้อมูลของ CoinMarketCap
อย่างไรก็ตาม
ในตอนนี้เรายังไม่ทราบถึงสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นมามากขนาดนี้ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากการค้นพบการเปลี่ยนแปลงของผู้ยื่นขอเปิดกองทุน Bitcoin ETF ที่ได้แก้ไขฟอร์ม S-1 ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการตัดสิน
โดยได้มีผู้สมัครหลายรายอย่าง BlackRock, Ark Invest/21Shares, VanEck, WisdomTree, Invesco, Fidelity และ Valkyrie ได้ทำการยื่นแบบฟอร์ม S-1 ที่แก้ไขเพิ่มเติมทั้งหมด ซึ่งในเอกสารได้เพิ่มเติมค่าธรรมเนียมผู้สนับสนุนบางส่วนซึ่งยังไม่ได้ประกาศก่อนหน้านี้
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ BlackRock ได้ยื่นค่าธรรมเนียมสำหรับ Bitcoin ETF ไว้เพียงแค่ 0.3% ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ถูกกว่าตลาดมาก และเพิ่มโอกาสให้ทางบริษัทขึ้นมาเป็นเจ้าตลาด Bitcoin ETF มากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ Ark/21Shares ก็ได้ลดค่าธรรมเนียมแข่งโดยลดจาก 0.8% เหลือเพียง 0.25% พร้อมกับไม่คิดมีค่าธรรมเนียมในช่วงหกเดือนแรกหรือจนกว่า ETF จะมีสินทรัพย์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่ผู้สมัครได้ยื่นเอกสารขั้นสุดท้ายแล้ว ก็เหลือเพียงแค่คาดหวังว่าทาง SEC จะตัดสินใจว่าจะอนุมัติแบบฟอร์ม และประกาศบังคับใช้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้สมัครสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์นี้ได้ในวันถัดไป
ที่มา: The Block และ Siam Blockchainรกของโลก บาทรกของโลก บาท และ Siam Blockchainรกของโลก บาท และ Siam Blockchain